วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2552

อุราฮาร่า คิสึเกะ 「浦原喜助」Urahara Kisuke


อาชีพ เจ้าของร้านอุราฮาร่า, 
อดีตยมทูต หัวหน้าหน่วยที่ 12, 
อดีตหัวหน้ากองวิจัย 
วันเกิด 31 ธันวาคม 
ส่วนสูง 183 เซนติเมตร 
น้ำหนัก 69 กิโลกรัม 
ดาบฟันวิญญาณ เบนิฮิเมะ 

พากย์เสียงโดย ชินอิจิโร่ มิกิ

กษณะ/อุปนิสัย 
คิสึเกะ เป็นเจ้าของร้านอุราฮาร่า ผู้มีเอกลักษณ์คือสวมเสื้อจินเบ ใส่หมวกลาย และสวมรองเท้าเกี๊ยะ (ตอนแรกอิจิโกะเรียกอุราฮาร่าว่า "เจ้าหมวกเกี๊ยะ") ภายนอกดูเหมือนเป็นคนบ้าๆบอๆ แต่เมื่อเขาจับดาบฟันวิญญาณแล้วจะเปลี่ยนเป็นคนละคนทันที 

ประวัติ 
ปัจจุบันคิสึเกะเป็นผู้จัดการร้านอุราฮาร่า ชอบสวมเกี๊ยะกับหมวกตลอด จนอิจิโกะเรียกว่า "เจ้าหมวกเกี๊ยะ" มีลูกน้อง 3 คน คือ เท็ตไซ จินตะ และอุรุรุ ซึ่งแต่ละคนมีพลังที่พอจะปราบฮอลโลว์ได้ คิสึเกะเคยเป็นผู้ก่อตั้งและหัวหน้ากองรุ่นแรกของกองวิจัยวิทยาการ (หน่วย 12 ของโซลโซไซตี้) แต่ต่อมาได้ถูกเนรเทศออกจากโซลโซไซตี้ตลอดกาล เนื่องจากคิดค้นโฮเงียคุกับกายหยาบที่ดูดกินพลังของยมทูตขึ้น และต่อมากายหยาบนี้เองที่เป็นสาเหตุให้พลังวิญญาณของลูเคียฟื้นช้า (ที่จริงไม่ฟื้นเลย เพราะเป็นกายหยาบที่ดูดกลืนพลังวิญญาณ) แต่ในคราวนั้นคิสึเกะก็ได้โยรุอิจิที่เป็นเพื่อนสนิทช่วยเหลือ จนได้มาเป็นคนขายของบนโลกมนุษย์ที่มีลูเคียเป็นลูกค้าประจำ ส่วนตัวแล้วนิสัยจะออกแนวกวนๆ ทะลึ่งทะเล้น แต่กลับเก่งกาจอย่างไม่เข้ากับบุคคลิก มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือและฝึกวิชาให้กับอิจิโกะ 

บทบาท 

ภาค โลกมนุษย์ 
คิสึเกะขายของให้ลูเคีย (โซลแคนดี้) แล้วเป็นม๊อดโซล คิสึเกะจึงจะเอาไปทำลาย แต่ลูเคียสงสารจึงเอาไปใส่ตุ๊กตายัดนุ่น แล้วคิสึเกะก็ปรากฏอีกครั้งตอนที่ดอน คันออนจิปรากฏตัว แต่ตอนนี้คิสึเกะไมช่วยอะไรเพราะอุรุรุอยากดูคันออนจิจึงพามาดู แล้วคิสึเกะก็ปรากฏอีกครั้ง ที่สถานที่ที่ฮอลโลว์มารุมอิจิโกะ ซึ่งคราวนี้คิสึเกะอยู่เฉยๆ แต่ให้พวกจินตะสู้กับฮอลโลว์แทน แล้วก็มาอีก ซึ่งมาช่วยถอดร่างอิจิโกะให้เป็นยมทูตไปชิงตัวลูเคียมา และอีกครั้งก็มากางร่มให้อิจิโกะที่ลงไปนอนกับพื้น แล้วพาไปฝึกบททดสอบสุดโฉดเพื่อเรียกพลังยมทูตคืนมา รอบแรก ให้สู้กับอุรุรุที่พลังสูงม๊ากมากแต่ก็ชนะได้ รอบสอง ให้ชิงพลังยมทูตมา ซึ่งอิจิโกะได้พบซันเงสึ ส่วนรอบสาม คิสึเกะลงมือต่อสู้กับอิจิโกะแต่อิจิโกะก็ผ่านได้ แล้วคิสึเกะก็สร้างประตูเซ็นไกมอนให้พวกอิจิโกะเข้าไปแล้วคิสึเกะก็จบบทบาทโลกที่ตรงนั้น และได้ออกมารับพวกอิจิโกะ หลังจากที่ได้กลับมาจากโซลโซไซตี้แล้ว 

ภาคเบาท์ 
อุราฮาระได้สร้างตัวเซนเซอร์ตรวจจับหาเบาท์ขึ้นมา และให้ไปอยู่ในกายหยาบที่สร้างขึ้น (เป็นลูกแก้ววิญญาณ ตอนหลังอยู่ในตุ๊กตาแทน มี 3 ตัว) และได้จัดฉากสร้างการฝึกให้กับพวกอิจิโกะ โดยให้ลูกแก้ววิญญาณ (ตัวเซนเซอร์เบาท์)ทำเป็นตัวร้าย ตอนหลังก็ถูกเฉลย และพวกอิจิโกะก็ได้ต่อสู้กับเบาท์จนไปถึงโซลโซไซตี้ 

ภาค อารันคาร์ 
คิสึเกะและโยรุอิจิได้มาช่วยอิจิโกะที่โดนฮอลโลว์ครอบงำแล้วถูกยามี่เล่นงานจนแทบสะบักสะบอม แต่แล้วอุลคิโอร่าเข้ามาช่วยยามี่ไว้จึงพาหนีไปได้ต่อมาได้ช่วยรองหัวหน้ารันงิคุจากการถูกลูปีโจมตีและได้ต่อสู้กับ วอนเดอร์ไวซ์ มัลเจร่าซึ่งเป็นอารันคาระดับเอสปาด้าตัวใหม่

ดาบฟันวิญญาณ 

เบนิฮิเมะ 
ขั้นต้น (ชิไค) 
ชื่อ : เบนิฮิเมะ (「紅姫」, Benihime, – เจ้าหญิงสีเลือด?) 
คำปลดปล่อย : จงตื่น, จงร่ำร้อง (「起きろ」, okiro, 起きろ?) 
ลักษณะ : เป็นดาบตรง ตรงส่วนที่งอเหมือนไม้เท้าจะเปลื่ยนแบบไป 
ความสามารถ : ยิงพลังสีแดงเหมือนเลือดไปได้ และสามารถสร้างโล่โลหิตหมอกแดงมาป้องกันตัวได้ 

 ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค) 
ยังไม่ปรากฏ 

เกร็ดความรู้ 
คำว่า เบนิ แปลว่าเลือด และ ฮิเมะ แปลว่าเจ้าหญิง จึงแปลว่า"เจ้าหญิงสีเลือด" 

เครดิต 


  

(เพิ่มเติม)ชายหนุ่มวัยกลางคนเจ้าของร้านขายของอุราฮาร่า แรกเริ่มเดิมทีเหมือน
ว่าเขาเป็นเพียงตัวกลางของโซลโซไซตี้ที่มาอาศัยอยู่บนโลกมนุษย์เท่านั้น แต่ภายหลังเราจะได้รับทราบ
ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นถึงอดีตหัวหน้าหน่วยที่ 12 ของโซลโซไซตี้ ที่ถูกเนรเทศออกมา
ตลอดกาลเพราะไปสร้าง โฮเคียคุ ขึ้นมา นอกจากนี้แล้วเขายังมีความลับอีกมากมายแต่
ก็มีบางอย่างที่แน่ชัดก็คือ ฝีมือดาบของเขานั้นขึ้นชื่อมากในโซลโซไซตี้ , 
เขามีความสามารถทางด้านวิทยาการ (แบบโซลโซไซตี้) อยู่ในระดับสูง, 
เขารู้จักกับอิชชินมาก่อน และอาจจะรู้จักกับอิชิดะ ริวเคน

ผู้เป็นพ่อของอุริวก็เป็นได้ เขาเป็นเพื่อนสนิทกับชิโฮอิน โยรุอิจิ 

ดาบฟันวิญญาณ

เบนิฮิเมะ (紅姫 - นางพญาสีเลือด) 
คำเรียกเวลาปลดปล่อยดาบ: จงตื่น (起きろ - โอคิโร) จงร่ำร้อง (啼け - นาเคะ) 
รูปร่างและความสามารถ: ยามปกติจะเป็นดาบซ่อนอยู่ในไม้เท้าของอุราฮาระ
แต่ยามปลดปล่อยขั้นต้นจะกลายเป็นดาบใบตรงด้ามโค้งๆ (นึกไม่ออกก็ลองไปดูดาบเลเซอร์ของ
เคานท์ดูกูในสตาร์วอร์สละกัน) ความสามารถยังไม่ปรากฏแน่ชัด นอกจากใช้โจมตีธรรมดากับใช้สร้างโล่
พลังขึ้นมาจากเลือดชื่อว่า "โล่หมอกโลหิต"

ซาโด้ ยาซึโทระ (แช้ด) 「茶渡泰虎」 Sado Yasutora


เลขที่ประจำชั้น 16 เลขที่ประจำชั้นฝ่ายนักเรียนชาย 9
ซาโดะ "แช้ด" ยาสึโทระ 

อาชีพ นักเรียนมัธยม 
วันเกิด 7 เมษายน 
อายุ 15 ปี 
สีผม สีน้ำตาล 
สีตา สีน้ำตาล 
ส่วนสูง 197 เซนติเมตร 
น้ำหนัก 112 กิโลกรัม 

หมู่เลือด AO 

 เพื่อนร่วมชั้นและเป็นเพื่อนสนิทของอิจิโกะ มีเชื้อสายอเมริกากลาง 
มีร่างกายกำยำแข็งแกร่ง(ตัวเหมือนเหล็กก็ว่าได้)
แต่ร่างกายของเขามีไว้เพื่อปกป้องคนอื่นเท่านั้น ชอบสวมเสื้อยืดฮาวายและใส่สร้อยคอ
ที่มีจี้เป็นเหรียญเม็กซิกัน 
เขามีพลังหมัดอันทรงพลังที่ทำให้เขาโค่นอารันคาร์ได้หลายต่อหลายตัว 
และเขายังไปที่ โซลโซไซตี้ และฮูเอโก้ มุนโด้ กับอิจิโกะด้วย 

แช้ดได้ไปยังโซลโซไซตี้กับอิจิโกะและอิชิดะ อิโนอุเอะ
 และก็ คุณโยรุอิจิอีกด้วยเพื่อไปช่วย 
ลูเคียจะการประหาร แช้ดระหว่างทางไปยังหอสำนึกผิดเค้า
ได้พบกับหัวหน้าหน่วยที่8 
เคียวราคุ ชุนซุย เค้าได้ทำการต่อสู้กับเคียวราคุแต่สุดท้ายก็ได้
พ่ายพ้ให้กับเคียวราคุและถูกนำตัว 
ไปยังคุกของเซย์เรย์เทย์แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจาก
หัวหน้าหน่วยที่11 ซาราคิ เคมปาจิออกจาก 
คุกและไปยังที่เนิน โซเคียคุ และได้เห็นการทรยศของ
ไอเซ็น โสสุเกะ หัวหน้าหน่วยที่5 

เมื่อแช้ดกลับมาที่โลกมนุษย์ก็ได้รู้สึแรงดันวิญาณแปลกๆที่อยู่ใกล้กับ
อิโนอุเอะพร้อมกับอิจิโกะ 
และอิชิดะ แต่พอทั้งสามคนไปถึงที่บ้านของอิโนอุเอะแล้วก็
พบว่าอิโนอุเอะถูกหลักพาตัวไป 
จึงได้ช่วยกันแก้ไขปริศนาต่างๆพร้อมกับพวกอิจิโกะ
เพื่อช่วยอิโนอุเอะแต่สุดท้าย แช้ดก็ถูกลัก 
พาตัวไปด้วยอีกคนนึงแต่สุดท้ายพวกอิจิโกะก็ได้พบว่า
การลักพาตัวทั้งหมดนั้นเป็นการทดสอบ 
ให้แต่ละคนให้กลับมามองตัวเองใหม่ซะของ
อุราฮาระ คิสึเกะ อดีตหัวหน้าหน่วยที่12 

แช้ดได้ไปยังฮูเอโก้ มุนโด้ พร้อมกับอิจิโกะและอิชิดะโดยผ่านเข้าไป
ในประตูที่เรียกกันว่า 
การ์กันต้า ที่อุราฮาระเป็นคนเปิดให้เพื่อให้พวกอิจิโกะไป
ช่วยอิโนอุเอะออกมา 
เมื่อแช้ดมาถึงฮูเอโก้ มุนโด้พร้อมกับพวกอิจิโกะเข้าทั้งสามคนก็ได้พบกับอาร์รันคาร์ 
สองตนที่มีหน้าที่เฝ้าประตูซึ่ง 
อาร์รันคาร์ทั้งสองก็คือ อาร์รันคาร์ ที่ชื่อว่า ไอสลิงเกอร์ 
และ เดโมร่า แต่ก็สามารถล้มอาร์รันคาร์ 
เฝ้าประตูสองต้นนี้ได้ด้วยแขนใหม่ของแช้ดและจบลงด้วยท่า
 "เอลดีเร็คโต้" ของแช้ดทันใดนั้น 
เพดานของประตู้ที่ขเมายังฮูเอโก้มุนโด้เพดานก็ถล่มลงมา
ทั้งสามคนจึงรีบออกมาจนสำรักทราย 
เต็มปาก และทั้งสามคนก็ได้พบกับอาร์รันคาร์คนนึงและ
ฮอล์โลว์อีกสามตัวซึ่งก็คือ 
1.เนล.โท เป็นอาร์รันคาร์ 2.เพชเช่.กาตีเช่ เป็นชายของเนล 
3.ดอนโดแจ็คเป็นพี่ใหญ่ และ 
สุดท้าย ฮอล์โลว์สัตว์เลี้ยงของทั้งสามชื่อว่า บาว่า
 ทั้งหมดเป็นพี่น้องร่วมสาบานกันแต่มีเฉพาะ 
เนลเท่านั้นที่เป็นอาร์รันคาร์ส่วนที่เหลือเป็นฮอล์โลว์หมด 
ทั้งสามคนได้ให้พวกเนลพาไปยัง 
ลาสนอเช่ ที่ซึ่งอิโนอุเอะอยู่ในนั้นระหว่างทางพวกเนลและอิจิโกะ
ก็ได้พบกับฮอล์โลว์ยามพิทักษ์ 
ลาสน่อเช่ที่ชื่อว่า ลูนูกังก้า ฮอล์โลว์ตัวนี้ไม่มีอะไรสามารถจัดการกับมันได้
นอกจากน้ำขณะที่ 
พวกอิจิโกะกำลังขเตาจน ลูเคียกับเร็นจิก็ได้เข้ามาช่วยเหลือไว้ 
และหลังจกานั้นพวกอิจิโกะก็ได้ 
แยกย้ายกันไปตามส่วนต่างๆของลาสน่อเช่เพื่อตามหาอิโนอุเอะ
แต่พอ แช้ด เข้ามาถึงห้องโถ่ง 
นึงเค้าก็ได้พบกับ เอสปาด้าตกชั้น เอสปาด้า No.107 
กันเทนไบน์ มอสเคด้า ทั้งสองได้ต่อสู้กัน 
กันอย่างดุเดือดแต่สุดท้ายผู้ชนะก็คือ แช้ด นั้นเอง 

__________________________________________________ 
พลังแขนและรูปร่างแขนของแช้ด 

แขนแรกของแช้ด 

เกิดจากการที่แช้ดได้รับพลังวิญาณได้ล้นออกมาจากตัวของอิจิโกะ
จึงเกิดเป็นผลกระทบ 
ทำให้แช้ดมีพลังกดดันทางวิญาณ และการที่แช้ดต้องการที่จะปกป้อง
 คารินน้องสาวของ 
อิจิโกะทำให้เข้าปลุกพลังวิญาณของตัวเองขึ้นมาได้ 

แขนที่สองของแช้ด 

เกิดจาสกากรที่แช้ดฝึกหนักกับอุราฮาระ คิสึเกะด้วยการที่จะต้องต่อสู้กับเร็นจิ
ในสภาพ 
ปลดปล่อยบังไคของเร็นจิ แต่แช้ดก็ทำสำเร็จ
และใชแขนใหม่นี้ล้ม เดโม่ร่า อาร์รันคาร์ 
ที่เป็นผู้เฝ้าประตูด้วยท่า เอลดีเร็คโต้ จึงสามารถล้ม
 เดโม่ราลงได้ 

แขนที่สามของแช้ด 

เกิดจาการที่แช้ดมายังฮูเอโก้มุนโด้ทำใหพลังของแขนของเค้าเริ่มตื้นขึ้น
ซึ่งจริงๆแล้วพลังของ 
แช้ดนั้นไม่ใช่ของยมทูตหรือควินซี่เลย แต่เป็นพลังของ
ฮอล์โลว์ต่างหากทำให้แขนขวาของ 
แช้ดนั้นตื้นขึ้นจนกลายเป็รูปลักษณ์ที่แท้จริงของแขนขวา
เค้าชื่อของมันก็คือ 
"บราโซ เดเรซ่า เด กิกันเต้" เป็นพลังแห่งการป้องกัน 

แขนสุดท้ายของแช้ด 

เป็นพลังของการโจมตีชื่อของมันก็คือ "บราโซ อิสคิเอร์ต้า เดล ดิอาโบล" 
มีความมหายว่า "แขนซ้ายแห่งจอมมาร" 
ซึ่งเป็นพลังแห่งการโจมตีสูงสุดที่แขนซ้ายของ 
แช้ด และท่าไม้ตายของแขนนี้ก็คือ "ลามูเอร์เต้"


อิชิดะ อุริว 「石田雨竜」 Ishida Uryu


 เลขที่ประจำชั้น 4 เลขที่ประจำชั้นฝ่ายนักเรียนชาย 3
อาชีพ นักเรียนมัธยม, 
ควินซี่(พรตปราบมาร) 
วันเกิด 15 กรกฎาคม>>>>ข้อมูลจากวิพีเดียของไทยค่ะ 
แต่ข้อมูลจาก bleach4thและWikipedia ของต่างประเทศ 
>>>>>วันที่ 6 พฤศจิกายน <<<<<<<
(ป้าเดะชอบของนอก ป้าเดะเลยยึดวันที่ 6 พ.ย เป็นหลักค่ะ)
อายุ 15 
สีผม สีดำ 
สีตา สีดำ 
ส่วนสูง 171 เซนติเมตร 
น้ำหนัก 55 กิโลกรัม 
หมู่เลือด AB 
พากย์เสียงโดย โนริอากิ สุกิยามะ 



อยู่ชมรมการฝีมือ เกลียดระดุม ชอบซิป เป็นความดันโลหิตต่ำ

คำพูดที่ชอบ “ตามมีตามเกิด” ของโปรด ต้มเต้าเจี้ยวปลาซาบะ

ริว เป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยร่าเริง ไม่ค่อยสะดุดตาเท่าไหร่ เป็นคนปากแข็งและขี้เก๊ก(อ.คุโบะยังบอกว่าเก๊กที่สุด) มาก 
อุริว เป็นควินซี่ที่มีพลังสูง แค่ยิงธนูก็ปราบฮอลโลว์ได้ในพริบตา เพราะปู่สอนไว้ แต่ปู่ของเขากลับถูกยมทูตกำจัด อุริวจึงเกลียดยมทูตตั้งแต่ตอนนั้นจนปัจจุบัน ภายหลังเสียพลังควินซี่ แต่ก็ได้ ริวเค็น พ่อของตนฟื้นพลังควินซี่ให้ โดยมีเงื่อนไขคือห้ามยุ่งกับยมทูตเด็ดขาด แล้วพออุริวได้พลังก็หนีพ่อไปช่วยพวกอิจิโกะปราบอารันคาร์ในที่สุด 
อุริวได้ท้าดวลโค่นฮอลโลว์กับอิจิโกะแต่ยังไม่ทันรู้ผลก็มีเมนอสกรังเด้ออกมาจึงต้องร่วมมือกันต่อสู้ และตอนที่เร็นจิกับเบียคุยะมาที่โลกมนุษย์เพื่อจะมาจับตัวลูเคียอุริวก็ได้ออกมาช่วยลูเคียแต่ก็โดนเร็นจิเล่นงานจนบาดเจ็บสาหัส 
อุริวได้สู้กับยมทูตชื่อ อิกคันซางะ จิโรโบ ซึ่งมีพลังดาบดาวกระจาย แต่อุริวก็โค่นได้ภายในเวลาไม่นาน แล้วอีกไม่นาน ก็มาต่อสู้กับคุโรซึจิ มายูริ หัวหน้าหน่วย 12 จนต้องเสียพลังของควินซี่เพราะถอดถุงมือลับที่อาจารย์ให้ซึ่งการทอดถุงมือครั้งมี้ดูเหมือนว่าจะทำลายหัวหน้าหน่วยคนนี้ได้แล้วแต่กลับต้องผิดหวังเพราะมายูริสร้างกลไกหนี้เอาไวและสามารถกลับไปรักษาตัวได้ แล้วก็รอดได้เพราะเนมุช่วยโดยให้ยาแก้พิษมาให้อุริวดื่ม และเดินทางไปหอสำนึกผิดแต่ก็โดนโทเซ็น คานาเมะจับ แล้วภายหลังก็ได้ซาราคิช่วยเหลือไว้ 
อิชิดะได้กลับมาที่โลกมนุษย์และได้เจอร่างวิญญาณเทียม 3 ตนที่ฮุราฮาระส่งมาทดสอบแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเพราะไม่มีพลังของพรตปราบมารแต่เขาก็ได้ช่วยพวกอิจิโกะในการแก้ปัญหาที่พวกวิญญาณเทียมวางกับดักล่อทำให้ช่วยอิโนอุเอะกับชาโดะที่ถูกจับไปได้ 

พวกเบาท์ต้องการตัวพรตปราบมารอย่างอิชิดะ จึงได้ส่งเบาท์มาชิงตัวอิชิดะแต่ก็ถูกพวกอิจิโกะช่วยไว้ได้ เขาจึงคิดว่าตัวเองเป็นตัวถ่วงจึงได้หนีออกมา แต่ก็ถูกโยชิโนะที่เป็นเบาท์ช่วยไว้ให้รอดมือจากเบาท์ของคาริยะ แล้วโยชิโนะได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้อิชิดะฟัง แต่แล้วโคงะได้เข้ามาทำร้ายและจับตัวทั้งสองคนไปที่คฤหาสน์ของพวกเบาท์ แต่แล้วพวกอิจิโกะมาชิงตัวกลับไปได้ และพาอิชิดะและโยชิโนะไปรักษาตัวที่ร้านของอุราฮาระ 

วันรุ่งขึ้นโยชิโนะเดินจากไปเพื่อต่อสู้กับคาริยะ อิชิดะจึงตามไปช่วยแต่แล้วโยชิโนะถูกคาริยะฆ่าตายและนำดวงวิญญาณของเธอสร้างดอลล์ตัวใหม่ขึ้นมา อิชิดะเสียใจที่ไม่สามารถช่วยโยชิโนะได้จึงได้แยกตัวออกมาลำพัง แต่แล้วคุโรซึจิ เนมุได้มอบถุงมือพลังควินซี่ให้อิชิดะ ทำให้เขาสามารถช่วยอิจิโกะต่อสู้กับพวกเบาท์ 

อุริวพบอารันคาร์ระดับกิลเลี่ยน(ตอนที่พลังหายไป) แต่ได้รับการช่วยเหลือจาก อิชิดะ ริวเค็น พ่อของตน โดยริวเค็นบอกว่ามีวิธีฟื้นพลังที่สูญเสียไปของอุริวได้โดยมีข้อแม้ว่าห้ามไปยุ่งเกี่ยวกับยมทูตอีกเป็นครั้งที่ 2 

อุริวได้ไปกับพวกอิจิโกะ เพื่อปราบอารันคาร์ซึ่งอุริวได้ธนูใหม่คือ งินเรย์ โคจาคุ แล้วได้สู้กับจิรุตจิ ธันเดอร์วิซ หนึ่งในอารันคาร์ ซึ่งอุริวร่วมมือกับเปชเช่ กาตีเช่ปราบจิรุตจิสำเร็จ ต่อมา เมื่ออุริวได้สัมผัสพลังวิญญาณของเร็นจิและอารันคาร์ตนหนึ่ง (หรือซาเอล อพอลโลนั่นเอง) อุริวได้ใช้ธนูเข้าโจมตีฮอลโลว์ของซาเอล อพอลโล และจู่โจมเขาด้วยเชเล่ ชไนเดอร์แต่กลับไม่มีผลอะไร แถมธนูของอุริวยังสลายไปอีกตะหาก อุริวจึงให้เร็นจิถ่วงเวลาไว้ก่อน ซึ่งตนจะใช้ไม้ตายเข้าถล่มซาเอล อพอลโลแต่มันต้องใช้เวลาพอสมควร และก็สำเร็จ ทว่า ซาเอล อพอลโลที่ควรจะตายแล้วกลับยังมีชีวิตอยู่ สิ่งที่สลายไปมีแค่เสื้อของเขาเท่านั้น แถมเขายังกินฮอลโลว์ของตนเพื่อเพื่มพลังให้ตัวเอง แทนที่ตนจะปลดปล่อยดาบออกมา กลับยังจะสู้อีก พร้อมกับของเวลาพวกเร็นจิไปเปลื่ยนเสื้อด้วย ซึ่งอิชิดะและเร็นจิได้อาศัยจังหวะนี้ในการหลบหนีจากการต่อสู้ แต่ด้วยความซับซ้อนและกับดักภายในที่พำนักของซาเอล ทำให้ทั้งสองทำได้แค่วิ่งวนไปมาเท่านั้น จนกระทั่งซาเอลเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จและได้ทำการปลดปล่อยดาบเพื่อจัดการกับพวกอิชิดะขั้นเด็ดขาด 

 ความสามารถของอุริว  




พลังจริง : ยิงธนู 
ไม้ตาย : เชเล่ ชไนเดอร์ 
รูปแบบไม้ตาย : ยิงธนูโดยใช้ดาบใส่ศัตรู 
พลังเสริม : รันโซเท็นไก 
รูปแบบพลัง : ใช้เส้นใยวิญญาณจำนวนมากมารัดรวมกัน เป็นวิชาของควินซี่ชั้นสูง 
ความสามารถ : ปลดปล่อยจากทุกอย่างได้

อิโนะอุเอะ โอริฮิเมะ 「井上織姫」 Inoue Orihime


 เลขที่ประจำชั้น 5 เลขที่ประจำชั้นฝ่ายนักเรียนหญิง 2

สูง 157 ซม. หนัก 45 กก. กรุ๊ปเลือด BO เกิดวันที่ 3 กันยายนชอบใส่กระโปรงลายดอกไม้ ชอบหัวเราะ ชอบครุ่นคิด พอครุ่นคิดอะไรไม่ออกก็จะอ้าปาก ชอบชีสกับเนย กินมันเผาโดยทาเนยก่อน เป็นกรรมการการสุขศึกษา 

 3 ปีก่อนพี่ชายตายจากไปส่วนพ่อก็ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร ปัจจุบันใช้ชีวิตแบบญาติช่วยเหลือ

เป็นเพื่อนร่วมชั้นของอิจิโกะ มีผมสีส้ม เธอแอบชอบอิจิโกะอยู่ เธอมีพี่ชายอยู่ 1 คนแต่ได้เสียชีวิตไปแล้ว พี่ชายของเธอได้กลายเป็นฮอว์โลว์และเข้ามาทำร้ายเธอ แต่เธอก็ได้ถูกช่วยไว้โดยคุโรซากิ อิจิโกะ และ คุจิกิ ลูเคีย กิ๊บติดผมที่เป็นของสำคัญของเธอก็ได้มาจากพี่ชายของเธอเอง 

พลังของเธอคือ 6 บุปผาโล่พิทักษ์ ที่สถิตอยู่ที่กิ๊บติดผมของเธอ โดยมี ฮินางิคุ ไบกอน และลิลลี่ (ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์คือ "ม่านพลังสามสวรรค์ ชั้นขอปฏิเสธ")ที่สามารถยับยั้งภายนอกโล่ห์ (สร้างกำแพงป้องกัน)

 ซึบากิ(ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์คือ "โล่ห์พิฆาต สวรรค์เดี่ยว ชั้นขอปฏิเสธ")มีความสามารถในการ ยับยั้งสองฟากข้างโล่ห์ (ผ่าศัตรูเป็นสองซีก) 

ชุนโอ(หัวหน้าหกบุปผาโล่ห์พิทักษ์) และ

อายาเมะ ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์คือ "ม่านสวรรค์คู่คืนสู่โลห์ ชั้นขอปฏิเสธ") มีความสามารถคือ ยับยั้งภายในโล่ห์ หรือก็คือ "ปฏิเสธเหตุการณ์" เธอสามารถปฏิเสธเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ไอเซ็นต้องการพลังของเธอ จึงใช้อุลคิโอร่าไปจับตัวเธอมา ปัจจุบันอยู่ในปราสาทของพวกอารันคาร์ในฮูเอโก้ มุนโด้ 

 ความรู้เกี่ยวกับ กิ๊ฟ ของ ฮิเมะ 

Shun Shun Rikka 'Shield of Six Dancing Flowers - 6 โล่บุปผา 
ภูติแต่ละตนของ ฮิเมะนั้นจามีดอกไม้ประจำตัวของตนเองได้แก่ 

ฮินางิคุ - ดอกเบญจมาศ 
ไบกอล - ดอกเหมย 
ลิลลี่ - ดอกลิลลี่ 

คำพูดคือ " สามค้ายโล่สวรรค์ ฉันขอปฏิเสธ " หรือ " Santen Kesshun I reject " 

ชุนโอ - ดอกเชอร์รี่ 
ไอยาเมะ - ดอกไอริส 

คำพูดคือ " โล่แปดคืนสวรรค์ ฉันขอปฏิเสธ " หรือ " Souten Kishun I reject " 

และ ซึบากิ - ดอกคล้ายดอกกุหลาบ สีแดง ขาว ชมพู 

คำพูดคือ " โล่เดียวผ่าสวรรค์ ฉันขอปฏิเสธ " หรือ " Koten Zanshun I reject "

คุจิกิ ลูเคีย 「朽木ルキア」Kuchiki Rukia

 

เลขที่ประจำชั้น 11 เลขที่ประชั้นฝ่ายนักเรียนหญิง 6
อาชีพ ยมทูตสังกัดหน่วยที่ 13 
วันเกิด 14 มกราคม 
สีผม สีดำ 
สีตา สีดำ 
ส่วนสูง 144 เซนติเมตร 
(ตัวเล็กมาก ขนาดที่แซ็ดสามารถอุ้มวิ่งได้สบายเลย)
น้ำหนัก 33 กิโลกรัม 
หมู่เลือด AO 
ดาบฟันวิญญาณ โซเดะโนะชิรายูกิ 
พากย์เสียงโดย ฟูมิโกะ โอริคาสะ 

ข้อมูลส่วนตั๊วส่วนตัว

ไม่ค่อยชอบใส่เสื้อผ้ารัดๆ ชอบปีนป่ายที่สูง 
ชอบสะสมของใช้ที่เป็นรูปกระต่าย 

ของโปรด แตงกวา กับสตอร์เบอร์รี่ และ ไข่

ลักษณะ/อุปนิสัย 
ลูเคีย ยมทูตหญิงที่นิสัยค่อนข้างเฮี้ยว ไว้ผมสั้นสีดำ ชอบทำตาขวางและมักจะแสดงอารมณ์รุนแรงเวลาไม่ค่อยพอใจอะไร โผงผาง ปากเร็ว แต่แท้จริงก็เป็นคนที่ดีมาก ขี้กังวล มีความรับผิดชอบมาก เป็นห่วงคนอื่นตลอดเวลา และอ่อนโยน (จะอ่อนโยนเป็นพิเศษต่อเมื่ออยู่กับ คุจิกิ เบียคุยะ) และก็ชอบกระต่ายจั๊บปี้มากเช่นกัน 


ประวัติ 
ลูเคีย คุจิกิเป็นยมทูตหน่วย 13 แห่ง13หน่วยพิทักษ์ แต่เดิมเป็นเด็กสาวที่เติบโตจากเมืองลูคอนเร่ร่อนไปวันๆ ต่อมาได้มาเจอกับ อาบาราอิ เร็นจิโดยบังเอิญ เมื่อเพื่อนของพวกเขาเสียชีวิตไปถึงสามคน ลูเคียและ อาบาราอิ เร็นจิจึงตัดสินใจเข้าเรียนที่สถาบันชินโอเพื่อสอบเข้าหน่วยพิทักษ์ แต่ยังไม่ทันเรียนจบก็ได้รับการติดต่อให้เข้าเป็นคนของตระกูลคุจิกิ ตระกูลขุนนางชั้นสูงที่มีคุจิกิ เบียคุยะ หัวหน้าหน่วย 6 เป็นเจ้าบ้าน โดยเธอเองก็ได้รับการบรรจุเข้า 13 หน่วยพิทักษ ์หน่วยที่ 13 ในทันที ในช่วงที่เธอเข้าในหน่วยพิทักษ์ เธอได้รับการชี้แนะจาก "ชิบะ ไคเอ็น"รองหัวหน้าหน่วย 13 อยู่บ่อย แต่เมื่อไคเอ็นถูกฮอลโลว์เข้าสิง ทำให้เธอต้องฆ่าไคเอ็นด้วยมือของตัวเอง ซึ่งเป็นผลให้เธอรู้สึกผิดต่อคนตระกูลชิบะอยู่ตลอดมา 

บทบาท 

ภาคแรก 
ลูเคียถูกส่งมาที่โลกในคำสั่งลาดตระเวณเป็นเวลา 1 เดือน เธอได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับฮอลโลว์เพื่อช่วยอิจิโกะ และถ่ายทอดพลังยมทูตให้ ทำให้เธอต้องอาศัยกายหยาบของอุราฮาร่า คิสึเกะเพื่อฟื้นฟูพลังและอาศัยอยู่กับอิจิโกะจนกว่าจะฟื้นพลังยมทูตมาได้ แต่นั่นถือว่าเป็นการผิดกฎอย่างร้ายแรง ทำให้เมื่อพ้นช่วง 1 เดือนที่เธออยู่ในโลกมนุษย์แล้วทางโซลโซไซตี้จึงเริ่มสงสัย ในช่วงหลังของภาคแรก ลูเคียจึงถูกพากลับไปโดยคุจิกิ เบียคุยะหัวหน้าหน่วยที่ 6 ซึ่งเป็นพี่ชายบุญธรรม และอาบาราอิ เร็นจิรองหัวหน้าหน่วยที่ 6 ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ซึ่งอิจิโกะได้เข้าขัดขวางแต่ก็ไม่อาจจะช่วยอะไรได้ ลูเคียจึงถูกพากลับไปโซลไซตี้เพื่อรับโทษประหาร ทำให้คุโรซากิกับเพื่อนต้องบุกเข้าโซลไซตี้เพื่อช่วยเหลือลูเคีย 

ภาคโซลโซไซตี้ 
ลูเคียต้องรับโทษประหารจากการกระทำของตน โดยใช้"โซเคียคุ" (ง้าวฟันวิญญาณขนาดใหญ่ที่ใช้ในการประหาร มีพลังเทียบเท่ากับดาบฟันวิญญาณ 1,000,000 เล่ม) ซึ่งเธอต้องอยู่ในหอสำนึกตนจนกว่าจะถึงวันประหาร ซึ่งในขณะนั้นเธอได้นึกโทษตัวเองอยู่ตลอดถึงการกระทำที่ทำให้หลายๆคนต้องมารับเคราะห์ ในช่วงนั้นทั้งอิจิโกะและคนอื่นๆต่างก็พยายามที่จะเข้ามาช่วยเธอ รวมทั้งความเห็นของบรรดาหัวหน้าหน่วยต่างๆที่เริ่มแตกแยกกันในเรื่องของการประหารลูเคีย และเมื่อถึงวันประหารที่ "เนินโซเคียคุ" อิจิโกะได้เข้ามาช่วยเธอไว้ได้ รวมทั้งการช่วยเหลือจากอุคิทาเกะ จูชิโร่หัวหน้าหน่วย 13 ซึ่งเป็นหัวหน้าของเธอเอง และเคียวราคุ ชุนซุยหัวหน้าหน่วย 8 รวมทั้งเร็นจิ ทำให้เธอรอดจากการประหารมาได้ในที่สุด 

หากแต่ความจริงแล้วการประหารครั้งนี้มีเบื้องหลังที่น่าตกใจมาก โดยทุกอย่างเป็นฝีมือของอดีตหัวหน้าหน่วย 5 "ไอเซ็น โซสุเกะ" โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะใช้โชเคียคุ ในการดึงเอาอุปกรณ์ลับที่อดีตหัวหน้าหน่วย 12 อุราฮาร่า คิสึเกะ ได้ซ่อนไว้ในร่างของลูเคีย นั่นคือ "โฮเคียวคุ" เพื่อแผนการณ์ของตนเอง โดยลูเคียได้ถูก"โทเซ็น คานาเมะ"หัวหน้าหน่วย 9 ที่เข้าพวกกับไอเซ็นพาตัวกลับไปที่เนินโซเคียคุ และโดนไอเซ็นดึงเอาโฮเงียวคุออกมาในที่สุดและก็เกือบจะต้องสิ้นชีวิตด้วยน้ำมือของ "อิชิมารุ งิน" แต่เธอก็ได้รับการช่วยเหลือจากเบียคุยะ 

หลังจากจบศึกที่โซลโซไซเอตี้ ลูเคียได้รับการอภัยโทษ เพราะคำสั่งที่ให้ประหารเธอในตอนแรกเป็นคำสั่งปลอมที่ไอเซ็นทำขึ้น (โดย 46 วังกลาง ที่ทำหน้าที่ออกคำสั่งถูกไอเซ็นฆ่าไปหมดแล้วก่อนหน้านี้หลายวัน) พร้อมกับได้กลับเป็นยมทูตอีกครั้ง เธอได้รวบรวมความกล้าเข้าไปขอโทษกับพี่น้องตระกูลชิบะได้สำเร็จ และเธอตัดสินใจที่จะอยู่ที่โซลโซไซตี้ต่อไป 

ภาคเบาท์ 
ลูเคียได้มาที่โลกเพื่อศึกต่อต้านเหล่าเบาท์ ที่กำลังวางแผนบุกโซลโซไซตี้ ซึ่งเธอได้โดยเบาท์ที่ชื่อ "มาบาชิ" ทำร้ายและควบคุมร่างกายเธอไว้ แต่ก็รอดมาได้เพราะโอริฮิเมะกับคุโรโดะ และรองหัวหน้าอิซางิช่วยไว้ จนเมื่อกลับไปที่โซลโซไซตี้ เธอได้รักษาตัวเองเพื่อพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ 

ภาคอารันคาร์ 
ลูเคียได้รับคำสั่งจากโซลโซไซตี้ให้เข้าร่วมต่อสู้กับอิจิโกะอีกครั้งในศึกครั้งใหม่กับอาร์รันคาร์พร้อมกับยมทูตอีก 5 คนที่ถูกส่งมาพร้อมๆกัน โดยเธอได้แกล้งทำเป็นคนบ้านแตกกับพ่อของอิจิโกะเพื่อขอการอนุญาตให้สามารถเข้าอาศัยในบ้านของอิจิโกะได้ และตอนที่"กริมจอร์ แจ็กเกอร์แจ็ก"กับอารันคาร์อีก 5 ตนได้ปรากฏตัวในโลกมนุษย์ เธอก็ได้กำจัดอารันคาร์ "ดีรอย" ลงด้วยมือของตน แต่ก็ถูกทำร้ายจากกริมจอร์ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ได้รับการรักษาจากโอริฮิเมะ และต่อมาเธอก็ได้เข้าต่อกรกับกริมจอร์ ที่กำลังทำร้ายคุโรซากิ อิจิโกะอยู่ จนเกือบจะถูกจัดการ แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากฮิราโกะที่เป็น "ไวเซิร์ด" จนรอดมาได้ และได้รับคำสั่งจากยามาโมโต้ เก็นริวไซให้กลับไปยังโซลโซไซเอตี้พร้อมกับยมทูตคนอื่นๆ 

ภาค Hueco Mundo 
ลูเคียได้ปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับเร็นจิในโลกของเหล่าฮอลโลว์ ทั้งสองได้รับความช่วยเหลือจากเบียคุยะจนสามารถเดินทางมาที่นี่ได้ และเข้าร่วมกับอิจิโกะในการต่อสู้ด้วย โดยในระหว่างที่พวกเธอบุกเข้ามาใน "ลาส นอร์เซ่" ปราสาทของไอเซ็นและเหล่าอารันคาร์ เธอได้เผชิญหน้ากับอารันคาร์ระดับเอสปาด้าลำดับที่ 9 นาม "แอโรนีโร่ อัลลูเอรี่" ซึ่งได้เปิดเผยหน้าภายใต้หน้ากากของตน ก็คือ"ชิบะ ไคเอ็น"[1] และหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวจากไคเอ็นเรียบร้อยแล้ว ไคเอ็นก็ได้โจมตีเธอโดยอ้างเรื่องการแก้แค้นจากที่ตนถูกลูเคียฆ่าซึ่งลูเคียเองก็ยอมรับ แต่ไคเอ็นกลับบอกว่าให้ชดใช้ด้วยการฆ่าพวกพ้องคนอื่นๆ นั่นทำให้ลูเคียบันดาลโทสะและเข้าต่อสู้กับไคเอ็นทันที แต่ด้วยฝีมือที่ต่างชั้นกันมาก ทำให้ลูเคียอยู่ในสภาวะตกที่นั่งลำบาก และในเวลานี้ก็กำลังเผชิญหน้ากับไคเอ็นที่ทำการปลดปล่อยดาบเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อการต่อสู้เริ่มไปได้พักใหญ่ ลูเคียได้ใช้วิธีล็อกร่างของไคเอ็นไว้ และทำลายผนังเพื่อให้ร่างของเขาสัมผัสแสง จนในที่สุดร่างที่แท้จริงของไคเอ็น หรือเออร์โรนีโร่ก็ปรากฏขึ้น และได้รู้ว่าเป็นฮอลโลว์ที่มีความสามารถในการกลืนกินฮอลโลว์ตนอื่นเพื่อเพิ่มพลังให้กับตนและหนึ่งในนั้นก็คือฮอลโลว์ที่รวมร่างกับไคเอ็นนั่นเอง โดยลูเคียได้เผชิญหน้ากับเออร์โรนีโร่ที่ปลดปล่อยดาบของตนเอง ซึ่งเธอได้เสียท่าถูกเออร์โรนีโร่เสียบด้วยเนจิบานะจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ด้วยแรงฮึดที่เกิดจากการนึกถึงอดีตของตนกับไคเอ็น ลูเคียได้ใช้กระบวนท่าที่สามของดาบฟันวิญญาณ "ดาบสีขาว" เล่นงานเออร์โรนีโร่ได้สำเร็จ และได้หมดสติไปจนเกือบจะถูกสังหารโดยโซมารีเอสปาด้าลำดับที่ 7 แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากเบียคุยะก่อนจะได้รับการรักษาจากอิซาเนะจนฟื้นคืนสติ 

ดาบฟันวิญญาณ 

ขั้นต้น (ชิไค) 
ชื่อ: โซเดะโนะชิรายูกิ (「袖白雪」, Sode no Shirayuki, – หิมะขาวในแขนเสื้อ?) 
คำปลดปล่อย : "จงร่ายรำ" (「舞え」, mae, 舞え?) 
ลักษณะ : ตัวคมดาบจะมีสีขาวทั่วทั้งเล่ม ทั้งใบมีด ด้ามดาบ โกร่งดาบ และมีริบบิ้นยาวห้อยออกมาจากปลายด้ามดาบ ได้ชื่อว่าเป็นดาบฟันวิญญาณที่งดงามที่สุดในโซลโซไซตี้ 
ความสามารถ : เป็นดาบสายน้ำแข็ง มีรูปแบบของพลังอยู่ 3 แบบ 
ระบำที่ 1 (初めの舞) ซึคิชิโระ (「月白」, จันทราสีขาว, 月白?) เป็นการใช้ดาบวาดขอบเขตวงกลมสีขาว ซึ่งจะแช่แข็งทุกสิ่งภายในขอบเขตนั้นแม้จะไำม่ได้เหยียบอยู่ในขอบเขตก็ตาม 
ระบำที่ 2 (次の舞) ฮาคุเร็น (「白漣」, ระลอกขาว, 白漣?) เป็นการยิงคลื่นพลังเป็นริ้วๆ 4 สาย และจะเปลี่ยนไปเป็นคลื่นน้ำแข็งเข้าโจมตี 
ระบำที่ 3 (参の舞) ชิราฟุเนะ (「白刀」, ดาบสีขาว, 白刀?) เป็นการสร้างคมดาบน้ำแข็งขึ้นจากดาบเข้าแทงศัตรู ซึ่งแม้ตัวดาบจะหักไปแล้วก็ยังสามารถใช้ท่านี้ได้ 

เกร็ดความรู้ 

เนื่องจากลูเคียต้องการจะเป็นกุลสตรีที่สมบูรณ์พร้อมอย่าง มิยาโกะ ภรรยา ของไคเอ็น ทำให้เธอมีความสามารถพิเศษในการทำอาหารด้วย 
ย้อนไปตอนที่ไอเซ็นออกไปจากโซลโซไซตี้ใหม่ๆ พวกเบียคุยะ ต่างได้รับบาดเจ็บต้องรักษาตัวที่หน่วย 4 ลูเคียจึงอยากทำของกินไปให้เบียคุยะ ซึ่งในตอนแรก ลูเคียทำของหวาน (ชิราทามะ) ไปให้ แต่ปรากฏว่า เบียคุยะชอบทานของเผ็ด จึงเอาขนมไปให้รันงิคุแทน ต่อมา ลูเคียทำแกงกระหรี่ แต่พอจะเอาไปให้เบียคุยะ อุโนะฮานะ หัวหน้าหน่วย 4 แนะนำว่าไม่เหมาะกับคนที่เพิ่งทุเลาจากอาการบาดเจ็บ เธอจึงเอาไปให้ เร็นจิกับอิจิโกะแทน ซึ่งทุกคนต่างก็ชมว่าฝีมือทำกับข้าวของเธออร่อยมาก จนสุดท้าย เธอจึงต้มข้าวต้มไปให้เบียคุยะ ซึ่งเบียคุยะไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ค่อยๆทานจนหมด ทำให้ลูเคียรู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่าง เธอกับพี่ชาย ดีขึ้นทีละน้อยๆ[3] 

ตามหลักแล้วคุจิกิ ลูเคียเป็นนักสู้ที่มีลำดับ และจะต้องเป็นรองหัวหน้าหน่วยที่ 13 ต่อจากชิบะ ไคเอ็นที่ตายไป แต่คุจิกิ เบียคุยะคัดค้านลูเคียจึงถูกถอดถอนชื่อออกจากนักสู้ที่มีลำดับ[4] 
ในลำดับการสอบที่ปรากฏในภาคแรก ลูเคีียได้ลำดับที่ 302 จาก 322 ลำดับ เพราะนอกจากภาษาญี่ปุ่นแล้ว ลูเคียสอบตกหมดทุกวิชา



คุโรซากิ อิจิโกะ 「黒崎一護」 Kurosaki Ichigo



เลขที่ประจำชั้น 13 เลขที่ประจำชั้นฝ่ายนักเรียนชาย 6
อาชีพ นักเรียนมัธยม, ยมทูตตัวแทน, 
ไวเซิร์ด 

วันเกิด 15 กรกฎาคม 
อายุ 15 
สีผม สีส้ม 
สีตา สีน้ำตาล 
ส่วนสูง 174 เซนติเมตร 
น้ำหนัก 61 กิโลกรัม 
หมู่เลือด AO 
ดาบฟันวิญญาณ ซันเงสึ 
พากย์เสียงโดย มาซาคาซึ โมริตะ 
นิสัยส่วนต๊วส่วนตัว 
อิจิโกะชอบใส่เสื้อกับกางเกงแบบรัดๆ  
ชอบไข่ปลาเผ็ดกับช็อกโกแลต
 บุคคลที่ชื่นชอบไมส์เนส กับ อัลปัจจีโน่  

 บุคคลที่เคารพยกย่อง วิลเลี่ยม เคสเปียร์

 คุโรซากิ อิจิโกะ (「黒崎 一護」, Kurosaki Ichigo, 黒崎 一護?) 
คุโรซากิ อิจิโกะภายนอกจะดูเหมือนพวกอันธพาลทั่วๆไป หากแต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เขาเป็นคนที่ใจดีและอ่อนโยนลึกๆ แม้จะดูแข็งกร้าวในหลายๆครั้ง แต่ในความเป็นจริงเขาก็เป็นคนดีมากคนหนึ่ง และสาเหตุก็อาจจะมาจากแผลใจในอดีต ทำให้เป็นคนที่ชอบอมทุกข์ไว้คนเดียวบ่อยๆ และก็ยังมีทักษะในการวิวาทที่ยอดเยี่ยมซะด้วย (ด้วยการฝึกกับพ่อทุกวัน) ลักษณะภายนอกที่เด่นๆก็คือ ผมสีส้มซึ่งเป็นสีเดิมแท้ๆ ไม่มีย้อม (มีการคาดเดาว่าได้มาจากทางฝ่ายแม่) 
คุโรซากิ อิจิโกะ เป็นผู้ที่มีพลังวิญญาณที่กล้าแข็งมาตั้งแต่ยังเด็ก เขาสามารถมองเห็นเหล่าดวงวิญญาณทั้งหลายได้ ในวัยเด็กเขาต้องเสียแม่ไปเนื่องจากอุบัติเหตุ (ซึ่งที่จริงเพราะเอาตัวเองไปป้องกันอิจิโกะที่กำลังจะโดนฮอลล์โล่ว์นาม "แกรนด์ ฟิชเชอร์" เล่นงาน) เขาจึงโทษตัวเองอยู่ตลอดว่าตนเป็นต้นเหตุ ตั้งแต่นั้นเขาก็เป็นคนเงียบๆและชอบเก็บตัว และมีความต้องการที่จะปกป้อง (น้องสาว) เเละคนที่ตนรักให้ได้โดยความพยายามเต็มที่

อิจิโกะที่มักจะช่วยเหลือเหล่าวิญญาณเร่ร่อนที่อยู่ตามส่วนต่างๆของเมืองที่เขาอยู่นั้นตลอด แต่วันหนึ่งเขาได้พบกับเหล่าวิญญาณร้ายที่เรียกว่า "ฮอลล์โลว์ (Hollow) " ซึ่งเข้าโจมตีวิญญาณตนหนึ่งในเมือง จนเขาเกือบจะโดนลูกหลงไปด้วย แต่เขาก็ได้รับความช่วยเหลือจากยมทูตจาก "โซลโซไซตี้" นาม คุจิกิ ลูเคีย และหลังจากนั้นเขาได้ก็พบกับลูเคียอีกครั้งที่บ้านของเขา โดยมาเตือนว่าครอบครัวของเขาจะได้รับอันตราย และยังไม่ทันจะขาดคำ ฮอลล์โล่ตนหนึ่งก็เข้าโจมตีครอบครัวของเขาเพราะต้องการพลังวิญญาณของอิจิโกะ ลูเคียที่เข้าช่วยก็พลาดท่า จนเธอต้องถ่ายทอดพลังยมทูตของเธอให้กับอิจิโกะส่วนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือ หากแต่อิจิโกะได้เอาพลังยมทูตทั้งหมดของเธอไปทำให้เขากลายเป็นยมทูตคนใหม่ไปและสามารถช่วยทุกคนรอดพ้นวิกฤติไปได้ ลูเคียที่สูญเสียพลังยมทูตทั้งหมด กลายเป็นร่างมนุษย์ธรรมดา จึงต้องคอยสนับสนุนอิจิโกะที่อยู่บนโลกจนกว่าพลังของตนกลับมา โดยอิจิโกะยิ่งได้ต่อสู้กับฮอลล์โล่ว์มาเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเข้าใจถึงความเป็นไปของมนุษย์ในหลายๆด้านมากยิ่งขึ้น เเละในขณะนั้นความสัมพันธ์ของเธอกับอิจิโกะก็เริ่มเปลี่ยนเเปลงไปยังสิ้นเชิง

จนมาถึงศึกที่เขาต้องดวลกับ อิชิดะ อุริว ผู้ที่เป็น ควินชี่ ด้วยการสังหารฮอลล์โลว์ให้มากที่สุด จนเกิดความโกลาหลไปทั้งเมืองเนื่องจากฮอลล์โล่ว์จำนวนนับร้อยได้อาละวาดไปทั่วทั้งเมือง จนแม้กระทั่ง "เมนอส กรังเด้" ที่เป็นอภิมหาฮอลล์โล่ว์ก็ต้องมาปรากฏตัวที่นี่ด้วย ซึ่งแม้ในที่สุดอิจิโกะจะสามารถขับไล่พวกมันไปได้หมดจากความช่วยเหลือจากพรรคพวกคนอื่นๆ แต่มันก็ทำให้ลูเคียที่รับรู้ทุกอย่างนั้นรู้สึกผิดที่ต้องทำให้อิจิโกะต้องมาพัวพันกับเรื่องแบบนี้ เธอจึงตัดสินใจหนีจากอิจิโกะ จนอิจิโกะเองก็ต้องมาตาม แต่ก็ต้องมาเจอกับ "อาบาราอิ เร็นจิ" รองหัวหน้าหน่วย 6 แห่ง "13 หน่วยพิทักษ์" ซึ่งมาจับตัวลูเคียตามคำสั่งของโซลโซไซตี้ เพื่อนำตัวกลับไปลงโทษในความผิดที่มอบพลังยมทูตให้กับมนุษย์ อิจิโกะได้เข้าต่อสู้อย่างยากลำบากจนกระทั่งปลุกพลังวิญญาณที่แท้จริงของตนเองขึ้นมาได้และเกือบจะเอาชนะเร็นจิได้ แต่ก็ต้องมาพ่ายแพ้ในพริบตาด้วยฝีมือของหัวหน้ายมทูตหน่วย 6 นาม "คุจิกิ เบียคุยะ" ผู้มีศักดิ์เป็นพี่ชายบุญธรรมของลูเคีย จนลูเคียถูกพาไปได้ในทึ่สุด 

อิจิโกะ ได้รับการช่วยเหลือจาก "อุราฮาร่า คิสึเกะ"โดยเขาได้รับการฝึกฝนจากอุราฮาร่าจนสามารถปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณของเขาสู่ระดับชิไค (ขั้นต้น) ได้สำเร็จ และเขาก็ได้ตัดสินใจที่จะไปช่วยลูเคีย พร้อมกับพรรคพวกผู้มีพลังวิญญาณสูงอย่าง "อิโนะอุเอะ โอริฮิเมะ" "ชาโด ยาสึโทระ (แช็ด) " "อิชิดะ อุริว" และแมวดำพูดได้อย่าง "ชิโฮอิน โยรุอิจิ" 

เมื่ออิจิโกะเดินทางไปถึงโซลโซไซตี้ ผ่านประตูทางเข้า ที่ต้องเจอกับผีเสื้อนรกที่เฝ้าด่านประตูไว้ แต่ก็ผ่านมาได้ และจากนั้นก็ต้องเผชิญกับอุปสรรคในการเข้าเซเรย์เทย์ ทั้งจากผู้คุมประตู "จิดัมโบ" ที่แม้จะเอาชนะมาได้แต่ก็ต้องโดน "อิชิมารุ งิน" หัวหน้าหน่วย 3 แห่ง 13 หน่วยพิทักษ์ ขวางเอาไว้ จนต้องหาวิธีอื่นที่จะเข้าไปในเซเรย์เทย์ และก็ได้รับการช่วยเหลือจาก "ชิบะ คูคาคุ" ซึ่งเป็นเพื่อนกับโยรุอิจิพร้อมกับได้ "ชิบะ กันจู" น้องชายของคุคาคุมาเป็นพรรคพวก (คู่กัด) เพิ่ม โดยการใช้ดอกไม้ไฟที่ใช้พลังวิญญาณเพื่อทะลวงสนามพลังของเซเรย์เทย์เข้าไป หากแต่เกิดความผิดพลาดเล็กน้อย ทำให้แม้จะเข้าไปได้ แต่ทุกคนก็ต้องกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง 

อิจิโกะเองก็ต้องเผชิญความยากลำบากหลายประการ (แต่ก็ได้พรรคพวกอย่าง "ยามาดะ ฮานาทาโร่" ยมทูตหน่วย 4 มาด้วย (ความบังเอิญ) เช่นกัน) ทั้งการต่อสู้กับยมทูตหน่วย 11 อย่าง "มาดาราเมะ อิคคาคุ" การต่อสู้กับเร็นจิอีกครั้งและเอาชนะได้อย่างหวุดหวิด การต่อสู้กับหัวหน้าหน่วย 11 "ซาราคิ เคมปาจิ" ที่เกือบจะต้องพ่ายแพ้ แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยการเสมอกันและได้รับการช่วยเหลือจากโยรุอิจิที่คืนร่างเดิม ซึ่งอิจิโกะได้ตรงมาช่วยลูเคียที่ "หอสำนึกบาป" ในทันที และก็ต้องเผชิญหน้ากับเบียคุยะอีกครั้ง ซึ่งอิจิโกะก็ได้รับการช่วยเหลือจากโยรุอิจิอีกจึงรอดจากการต่อสู้ที่ต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอนนี้มาได้ พร้อมกับมาช่วยฝึกอีกจนสามารถปลุกขั้นบังไค (ปลดปล่อยสวัสดิกะ) ของดาบฟันวิญญาณได้สำเร็จ จะปรากฏในตอนที่48-50ในเอะนิเมะะ 

ในตอนท้ายของภาค อิจิโกะได้เข้าช่วยเหลือลูเคียที่กำลังจะโดนประหาร และได้ต่อสู้กับเบียคุยะอีกครั้งที่ลานประหาร การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือดซึ่งทั้งคู่ต่างใช้ฝีมือที่มีอยู่ทั้งหมดเข้าต่อกร จนถึงขนาดที่ร่างฮอลโลว์ในตัวของอิจิโกะต้องปรากฏออกมาเพื่อต่อต้านเบียคุยะ แต่ตัวเขาเองก็ไม่ต้องการเช่นนั้นและสะกดมันไว้ในตัวอีก และในที่สุดอิจิโกะก็สามารถกำชัยชนะไว้ได้อย่างหวุดหวิดในการลงดาบครั้งสุดท้าย ทำให้เบียคุยะยอมถอนตัวจากลูเคียและพรรคพวกที่กระจัดกระจายกันไปก็กลับมารวมได้อีกครั้ง 

แต่ในท้ายที่สุด หลังจากการประกาศการทรยศของไอเซ็นโดยอิซาเนะซึ่งมีจุดหมายที่แท้จริงในการฆ่าลูเคีย เขาจึงได้ย้อนกลับไปที่เนินโซเคียคุและช่วยเหลือเร็นจิที่เกือบจะโดนจัดการได้ทันท่วงที พร้อมกับร่วมมือกับเร็นจิเพื่อที่จะหนีจากไอเซ็น แต่ก็พลาดและโดนไอเซ็นทำร้ายบาดเจ็บสาหัส พร้อมกับได้รับฟังความจริงทุกอย่างจากปากของไอเซ็น ทั้งเรื่องของยมทูตกับฮอลโลว์ และแม้แต่เรื่องของโฮเงียวคุที่อยู่ในตัวของลูเคียที่ไอเซ็นต้องการ แต่หลังจากที่ไอเซ็นและพรรคพวกโดนบรรดาหัวหน้าหน่วยคนอื่นๆล้อมจับและได้หลบหนีไปได้จากการช่วยเหลือของเหล่ากิลเลี่ยน ซึ่งอิจิโกะได้รับการช่วยเหลือจากโอริฮิเมะและพักรักษาตัวอยู่ในโซลโซไซตี้ 

อิจิโกะที่พักฟื้นอาการอยู่ที่โซลโซไซตี้ได้อาทิตย์หนึ่ง เขาได้ถามลูเคียถึงเรื่องที่จะกลับไปรึเปล่า ซึ่งลูเคียเองก็ตัดสินใจที่จะอยู่ที่โซลโซไซตี้ต่อ และเมื่อถึงเวลากลับ อิจิโกะได้รับตราแสดงตนเองเป็นตัวแทนยมทูตจากอุคิทาเกะทำให้เขาสามารถปฏิบัติภารกิจของยมทูตได้ 

อิจิโกะที่กลับมาที่โลกได้พบกับเร็นจิที่มาดูแลพื้นที่เดิมของลูเคีย และได้เกิดเหตุการปั่นหัวครั้งใหญ่ระหว่างพวกเขากับวิญญาณดัดแปลงทั้ง 3 ที่อุราฮาร่าส่งมาเพื่อทดสอบอิจิโกะ ทำให้รู้ว่าอิจิโกะไม่สามารถปลดปล่อยสวัสดิกะได้ในตอนนั้น และได้รับมอบ "ริริน" วิญญาณดัดแปลงของอุราฮาร่ามาเป็นผู้ช่วย และหลังจากนั้นเหล่าเบาท์ ก็ได้เริ่มปรากฏตัว ซึ่งอิจิโกะได้ต่อสู้กับเบาท์นามว่า "โซมะ โยชิโนะ" และได้รับการช่วยเหลือจากลูเคียที่มาในตอนนั้นพอดี และได้เผชิญหน้กับเบาท์ "เรียว อุดะกาว่า" และเบาท์ ฝาแฝด "โฮและบัน" ซึ่งก็ได้ผ่านพ้นมาได้ หลังจากนั้นเหล่าเบาท์ ก็ได้เริ่มแผนการลักพาตัวอิชิดะที่เป็นควินซี่ เพื่อที่จะขอยืมพลังของอิชิดะในการเปิดประตูไปสู่โซลโซไซตี้ พวกอิจิโกะจึงบุกเข้าไปที่คฤหาสน์ของคาริยะ หัวหน้าของเหล่าเบาท์ และอิจิโกะก็ได้เผชิญหน้ากับ "อิชิโนเสะ มากิ" อดีตยมทูตของหน่วย 11 ที่มาเข้าพวกกับคาริยะ และเข้าต่อสู้กัน ซึ่งก็ยังไม่รู้ผล 

หลังจากที่เหล่าเบาท์ ได้เริ่มแผนการรวบรวมวิญญาณในการเปิดประตูสู่โซลโซไซตี้ อิจิโกะก็ได้เข้าต่อสู้กับคาริยะ แต่ด้วยความสามารถที่สูงล้ำของเขาก็ทำให้อิจิโกะเข้าตาจน และในที่สุดอิจิโกะก็สามารถปลดปล่อยสวัสดิกะ และเป็นฝ่ายรุกไล่คาริยะบ้าง แต่ในที่สุดประตูสู่โซลโซไซตี้ก็ถูกเปิดออก เหล่าเบาท์ สามารถเข้าสู่โลกแห่งวิญญาณได้สำเร็จโดยการหลอกล่ออิชิดะ ซึ่งพวกอิจิโกะก็ได้ตามไปด้วย และได้รับความช่วยเหลือจากทั้งตระกูลชิบะ และเหล่ายมทูต และได้พบกับเรนโตะ อดีตนักวิจัยหญิงแห่งกองวิทยาการแห่งโซลโซไซตี้ที่รู้ความลับในการกำเนิดของเหล่าเบาท์ ซึ่งในตอนนั้นเองเหล่าเบาท์ ก็ได้บุกโจมตีเซย์เรย์เทย์ ซึ่งในท้ายที่สุดอิจิโกะก็ได้ปะทะกับคาริยะ การต่อสู้ของทั้งคู่ดำเนินไปอย่างดุเดือด ซึ่งมากิที่เริ่มตาสว่างก็ได้มาขวางการต่อสู้ของทั้งคู่แต่ก็โดนคาริยะกำจัดไป แต่ดาบฟันวิญญาณของเขาก็ได้ช่วยเหลืออิจิโกะในการต่อสู้ครั้งหนึ่ง และมีการปรากฏของฮอลโลว์ในตัวของอิจิโกะในการต่อสู้ในขณะหนึ่ง แต่ในท้ายที่สุดอิจิโกะก็สามารถล้มคาริยะได้สำเร็จท่ามกลางการเฝ้ามองของพรรคพวกของเขา 

จิโกะที่ต้องคอยต่อสู้กับฮอลโลว์อยู่ทุกวันในฐานะตัวแทนยมทูต ซึ่งเขาได้พบกับฮิราโกะซึ่งเป็นไวเซิร์ด และเขาได้ชักชวนให้อิจิโกะมาเข้าพวกด้วยในฐานะที่มีพลังฮอลโลว์ในตัวเหมือนกัน แต่อิจิโกะก็ปฏิเสธไป แต่ก็ยังได้รับการชักชวนอยู่เนืองๆ พร้อมกับคำเตือนถึงพลังของฮอลโลว์ในกายที่เพิ่มมากขึ้นจนอิจิโกะไม่อาจจะควบคุมได้แล้ว และสุดท้ายอิจิโกะก็จะถูกมันกลืนกินไป ซึ่งเรื่องนี้ทำให้อิจิโกะเป็นกังวลอยู่อย่างมาก ที่ยิ่งกว่านั้นคือคารินได้ประกาศออกมาว่าตนรู้เรื่องตัวจริงของอิจิโกะในฐานะยมทูตแล้ว 

เมื่อไอเซ็นได้ส่งอารันคาร์สองตนนาม "อุลคิโอร่า" และ "ยามี่" มายังโลกเพื่อประเมินความสามารถของอิจิโกะ ซึ่งอิจิโกะก็ได้เข้าต่อสู้กับยามี่ที่กำลังทำร้ายโอริฮิเมะโดยอิจิโกะได้ปลดปล่อยสวัสดิกะเข้าต่อสู้ และเล่นงานยามี่จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เมื่ออิจิโกะเห็นว่าอาร์รันคาร์มีดาบฟันวิญญาณ เขาจึงเกิดความสับสนขึ้นในใจและโดนฮอลโลว์แทรกแซง เขาจึงโดนยามี่เล่นงานจนได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากอุราฮาร่าและโยรุอิจิ และอารันคาร์ก็ได้ถอนกลับไปด้วยสาเหตุที่ว่าอิจิโกะไม่เป็นภัยร้ายแรงต่อไอเซ็น 

หลังจากนั้นอิจิโกะก็อยู่ในสภาวะซึมเศร้าจากเรื่องนี้ แต่เมื่อเหล่ายมทูตทั้ง 5 รวมทั้งลูเคียได้เดินทางมายังโลกเพื่อรับมือกับเหล่าอารันคาร์ ลูเคียก็ได้เตือนสติอิจิโกะจนเขากลับมาเป็นตัวของตนเองอีกครั้ง พร้อมกับได้รับรู้เรื่องของอารันคาร์จากเหล่ายมทูต 

เมื่อกริมจอว์ แจ็กเกอร์แจ็กอารันคาร์ชั้นเอสปาด้าลำดับที่ 6 ได้เดินทางมาทางมาที่โลกพร้อมกับอารันคาร์อีก 5 คน เพื่อกำจัดทุกคนที่มีพลังวิญญาณในเมืองคามาคุระ อิจิโกะก็ได้เผชิญหน้ากับกริมจอร์ และเกิดการต่อสู้กัน โดยได้ปลดปล่อยสวัสดิกะเข้าต่อสู้แต่ก็ยังตกเป็นรองกริมจอว์อยู่ และก่อนโดนร่างฮอลโลว์แทรกแซงอีกครั้ง กริมจอร์ก็ถูกโทเซ็นเรียกตัวกลับไป อิจิโกะรู้สึกตัวเองว่าถ้ายังอยู่แบบนี้ต่อไปเขาจะต้องถูกฮอลโลว์กลืนกินไปจนหมดแน่ 

อิจิโกะตัดสินใจไปหาเหล่าไวเซิร์ด เพื่อบังคับให้บอกวิธีควบคุมร่างฮอลโลว์ในตัว และได้ต่อสู้กับ "ซารุงากิ ฮิโยริ" หนึ่งในไวเซิร์ด ซึ่งได้แสดงพลังของตนที่ใช้ร่วมกับพลังของฮอลโลว์ซึ่งสามารถต้อนอิจิโกะได้จนมุม แต่เมื่อร่างฮอลโลว์ของอิจิโกะแสดงออกมาสถานการณ์ก็พลิกกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่เหล่าไวเซิร์ดก็ได้ห้ามเอาไว้ได้ทัน พร้อมกับนำอิจิโกะเข้าสู่โลกภายในเพื่อต่อสู้กับฮอลโลว์ 

ในการต่อสู้กับฮอลโลว์ภายใน ทั้งอิจิโกะและฮอลโลว์ภายในร่างของอิจิโกะต่างก็เข้าต่อสู้กันโดยการปลดปล่อยสวัสดิกะ ซึ่งในภายนอกร่างของอิจิโกะก็ได้รับผลกระทบจนค่อยๆกลายเป็นฮอลโลว์ทีละนิดและเริ่มบ้าคลั่ง เหล่าไวเซิร์ดจึงเข้าขวางเอาไว้เพื่อไม่ให้อาละวาด ส่วนอิจิโกะที่กำลังต่อสู้กับฮอลโลว์ในโลกภายในนั้นก็เกือบจะเสียท่าไป แต่เมื่อเขาได้รับการปลุกใจจากจิตใต้สำนึกแห่งการต่อสู้ของเขาที่มาในรูปลักษณ์ของเคมปาจิ (ในอนิเมทจะมีเบียคุยะและคาริยะ (ตัวละครจาก Filler ภาค Bount) เพิ่มเข้ามาด้วย) ทำให้เขาฮึดสู้จนสามารถเอาชนะร่างฮอลโลว์ได้สำเร็จ และในโลกด้านนอก ร่างของอิจิโกะที่กลายเป็นฮอลโลว์ก็ได้กลับสู่ร่างเดิมและควบคุมพลังฮอลโลว์ได้สำเร็จ 

หลังจากนั้นอิจิโกะก็ได้ฝึกการควบคุมพลังและคงสภาพฮอลโลว์ แต่ก็ฝึกได้เพียงแค่เดือนเดียว เหล่าอารันคาร์มารุกรานโลกอีกครั้ง อิจิโกะก็ได้เข้าต่อสู้กับกริมจอร์อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้อิจิโกะได้ใช้พลังฮอลโลว์ของตนร่วมกับการปลดปล่อยสวัสดิกะจนแสดงพลังที่เหนือกว่าอีกฝ่ายไล่ต้อนจนเกือบจนมุม แต่ด้วยระยะเวลาที่น้อยนิดในการคงสภาพฮอลโลว์ของเขา (11 วินาที) ทำให้อิจิโกะเสียท่าและโดนกริมจอร์เล่นงานได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากลูเคียและฮิราโกะจนรอดมาได้ ซึ่งอิจิโกะที่ได้รับบาดเจ็บได้รับการรักษาจากโอริฮิเมะอีกครั้ง ก่อนที่หล่อนจะไปกับเหล่าอารันคาร์จากการขู่บังคับของอุลคิโอร่า 

อิจิโกะที่หายดีแล้ว ได้รับการบอกจากยมทูตว่าโอริฮิเมะได้ไปเข้าพวกกับอารันคาร์แล้ว ทำให้อิจิโกะต้องการที่จะไปช่วยโอริฮิเมะ และต้องการจะรู้ว่าจะทำยังไงถึงจะไปที่โลกของฮอลโลว์ (Hueco Mundo) ได้ แต่ก็ไม่ได้รับการเห็นชอบจากหัวหน้าหน่วยที่1 พร้อมคำสั่งเรียกตัวยมทูตกลับไปที่โซลโซไซตี้เพื่อรับมือศึกกับไอเซ็น แต่ท้ายที่สุดอิจิโกะก็ได้ไปขอความช่วยเหลือจากอุราฮาร่าจนสามารถเดินทางไปที่ Hueco Mundo ได้สำเร็จ โดยมีอิชิดะกับซาโดะร่วมทางไปด้วยสำหรับการช่วยเหลือครั้งนี้ โดยมีทัตสึกิและพวกพ้องของเขามองดูอยู่เบื้องหลัง 

อิจิโกะได้เดินทางมาถึง Hueco Mundo โลกของเหล่าฮอลโลว์ และได้เผชิญหน้ากับอารันคาร์ระดับล่าง (เกิดจากฮอลโลว์ที่ต่ำกว่าระดับเมนอส) และผ่านมาได้ไม่ยากนัก ซึ่งเขาและคณะได้มาถึงทะเลทรายของโลกนี้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ "ลาซ นอร์เซ่" ปราสาทของไอเซ็นและเหล่าอารันคาร์ โดยระหว่างทางพวกเขาได้พบกับ "สามพี่น้องฮอลโลว์" ซึ่งมีทั้งอารันคาร์หนึ่งและฮอลโลว์อีกสอง และสัตว์เลี้ยงอีกหนึ่ง โดยทั้งหมดรวมทั้งพวกอิจิโกะได้เผชิญหน้ากับผู้เฝ้าเส้นทางนี้ ซึ่งมีร่างกายเป็นทรายทำให้การโจมตีของอิจิโกะไร้ผล แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากลูเคียและเร็นจิที่เดินทางมา Hueco Mundo ด้วย ซึ่งทั้งหมดก็ได้รวมกลุ่มกันและเดินทางไปถึง ลาซ นอร์เซ่ ได้สำเร็จ และได้แยกกันต่อสู้เมื่อเข้ามาด้านในได้สำเร็จ ซึ่งอิจิโกะที่เดินทางไปอีกจุดหนึ่งได้ถูกตามมาโดย "เนล" อารันคาร์ที่เป็นน้องคนสุดท้องในสามพี่น้องฮอลโลว์ และได้เผชิญหน้ากับ "ดอนโดนี่ อเลสซานโด้ เดล โซคัคชิโอ้" อารันคาร์ลำดับที่ 103 ซึ่งเป็น "อดีตเอสปาด้า" ทั้งคู่ได้ต่อสู้กันอย่างดุเดือด โดยอิจิโกะชนะได้โดยการช่วยเหลือจากเนลและการปลดปล่อยสวัสดิกะแล้วใช้พลังฮอลโลว์ของตนร่วมด้วย หลังจากนั้นอิจิโกะก็ได้เจอกับ อุลคิโอร่า แต่อิจิโกะไม่รู้สึกถึงพลังกดดันวิญญาณของลูเคียแล้ว เลยกระวนกระวายแล้วไม่อยากสู้กับอุลคิโอร่า และพออุลคิโอร่าพูดขึ้นว่าตนเองคือคนที่พา อิโนะอุเอะ โอริฮิเมะ มาที่นี่ ทำให้อิจิโกะโมโหมาก จึงได้ใช้บังไค+แปลงร่างเป็นฮอลโล่แล้วใช้ เก็ทขะเท็นโช แต่อุลคิโฮร่าใช้แค่สองมือรับพลังไว้ และได้จัดการอิจิโกะจนถึงกับนอนหมดสภาพ หลังจากนั้น กริมจอว์ แจ๊คเกอร์แจ๊ค ได้ไปที่ห้องคุมขังของ อิโนอุเอะ โอริฮิเมะ เพื่อ ช่วยหล่อน ออกมาและพาไปหา อิจิโกะและสั่งให้ อิโนอุเอะ โอริฮิเมะ ช่วยรักษา อิจิโกะ แต่ อุลคิโอร่า ก็เข้ามาขัดขวาง เลยเกิดการต่อสู้ระหว่าง อุลคิโอร่า และ กริมจอว์ แจ๊คเกอร์แจ๊ค ในการต่อสู้อันสั้นนั้น กริมจอว์ แจ๊คเกอร์แจ๊ค ได้ใช้พลังเพื่อกักขัง อุลคิโอร่า ชั่วคราว และสั่งให้ อิโนอุเอะ โอริฮิเมะ ช่วยรักษา อิจิโกะ ในสภาพ ปางตายให้หายดี หลังจากอิจิโกะหายเป็นปกติแล้ว อิจิโกะก็ได้ แปลงร่างเป็น ฮอลโล่ ต่อ สู้กับ กริมจอว์ แจ๊คเกอร์แจ๊ค อย่างเอาเป็นเอาตาย และในที่สุดอิจิโกะก็สามารถชนะ กริมจอว์ แจ๊คเกอร์แจ๊ค ได้ โดยที่ กริมจอว์ ยังไม่ตาย หลังจากนั้น อิจิโกะ กำลังจะพา อิโนะอุเอะ กลับ กริมจอว์ ก็ได้รุกขึ้นมา พูดกับอิจิโกะว่าจะไม่ยอมแพ้ แต่ก็ถูก ดาบของ นอยโทร่า (Espada No.5) ฟันจนล้มลงไปจนดำปางตาย

ดาบฟันวิญญาณ

ขั้นต้น (ชิไค) 
ชื่อ : ซันเงสึ(「斬月」, Zangetsu, ผ่าจันทรา, 斬月?) 
ลักษณะ : ตัวดาบจะเป็นรูปแบบของมีดขนาดใหญ่ที่หล่อเป็นโลหะทั้งเล่ม (คล้ายมีดอีโต้) และมีผ้าพันอยู่ที่ด้ามดาบและตัวดาบยามไม่ใช้ 
ความสามารถ : เมื่อฟันออกไป ตัวดาบจะสามารถดูดซับพลังวิญญาณของผู้ใช้และเปลี่ยนเป็นคลื่นพลังทำลายสีน้ำเงินที่มีพลังมหาศาลและจะขยายใหญ่ขึ้น เรียกว่า "เกทซึกะ เทนโช" (「月牙天衝」, เขี้ยวจันทรา ทะลวงสวรรค์, 月牙天衝?) 

________________________________________________ 

ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค) 
ชื่อ : เท็นซะ ซันเก็ทสึ (「天鎖斬月」, TensaZangetsu, โซ่สวรรค์ ฟันจันทรา, 天鎖斬月?) 
ลักษณะ : ตัวดาบจะเปลี่ยนเป็นทรงคาตานะ มีตัวดาบสีดำทั้งเล่ม กระบังดาบเป็นรูปสวัสดิกะ และที่ด้ามดาบมีโซ่ห้อยออกมา รวมทั้งเสื้อของอิจิโกะจะเปลี่ยนไปกิโมโนสีดำชายยาว คล้ายชุดของ ซันเงสึ 
ความสามารถ : เป็นดาบที่จะเพิ่มความเร็วและพลังของอิจิโกะให้เพิ่มขึ้นหลายสิบเท่าจนถึงขนาดแยกเป็นเงาได้หลายร่าง และยังใช้พลังของ "เกทซึกะ เทนโช" ได้เช่นขั้นต้น แต่คลื่นพลังจะเป็นสีดำ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการโจมตีของฮอลโลว์ภายในร่างของอิจิโกะ 


 
 
พลังฮอล์โลว์ในตัวของ อิจิโกะ (Hollow powers) 

ฮอล์โลว์ในตัวของอิจิโกะ 

ที่ฮอล์โลว์เข้าไปอยู่ในตัวของอิจิโกะได้นั้นเนื่องจากว่าอิจิโกะได้สูญเสียพลังยมทูต 
จากการที่ถูก คุจิกิ เบียคุยะ ทำลายโซ่กรรมและวิญาณหลับจนอิจิโกะได้สูญเสียพลัง 
ยมทูตไปแต่การที่อิจิโกะต้องการที่จะไดพลังขแงยมทูตคืน อุราฮาระ คิสึเกะจึงได้ใช้วิธี 
แชทเตอร์ ซาทฟ์ ซึ่งเป็นการตัดโซ่กรรมของตัวเอง จึงทำให้ภายในเวลาสามวันโซ่กรรม 
จะเริ่มกันกินโซ่แต่ถ้าสามารถเป็นยมทูตได้ก่อนที่จะกลายเป็นฮอล์โลว์แต่ตอนนั้นอิจิโกะกลับ 
ทำได้อย่างเหลือเชื่อก็คือตอนนั้นอิจิโกะใกล้จะเป็นฮอล์โลว์แล้วแต่ก็ได้พลังยมทูตกลับคืนมา 
อย่างทันเวลาแต่ตอนนั้นหน้ากากฮอล์โลว์ของอิจิโกะได้เกิดขึนมาแล้วด้วยเหตุนี้เป็นเพราะว่า 
การที่อิจิโกะได้พลังยมทูตคืนพร้อมกับกลายเป็นฮอล์โลว์ไปด้วยจึงเกิดมีฮอล์โลว์อยู่ในตัว 
ของอิจิโกะเหมือนกับเป็นตัวเองในกระจกเงา




ข้อมูล BLEACH เทพมรณะ


ผู้แต่ง: คุโบะ ไทเทะ

  ไทโตะ คุโบะ (「久保帯人」, Kubo Taito, 久保帯人) หรือนามปากกาว่า คุโบะ ไทเทะ (Kubo tite) หรือ ไทเทะ คุโบะ (Tite Kubo) ชื่อจริงคือ โนริอะกิ คุโบะ(「久保宣章」, Kubo Noriaki, 久保宣章) เป็นนักวาดการ์ตูนชาวญี่ปุ่น เกิดเมื่อ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2520ผลงาน

  คุโบะเริ่มวาดการ์ตูนตั้งแต่สมัยอยู่ไฮสคูล โดยเป็นสมาชิกของชมรมการ์ตูนในโรงเรียน และได้เริ่มวาดการ์ตูนเรื่องแรกคือ ซอมบี้พาวเดอร์ และได้ตีพิมพ์ในภายหลัง เริ่มต้นชีวิตทำงาน คุโบะได้วาดการ์ตูนเรื่องเทพมรณะ หรือ บลีช โดยหวังว่าจะได้ตีพิมพ์จากโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์ แต่ถูกปฏิเสธจากทางบริษัทเนื่องจากเหตุผลว่า โครงเรื่องมีลักษณะใกล้เคียงกับเรื่องคนเก่งฟ้าประทาน อย่างไรก็ตามในที่สุดผลงานเรื่อง เทพมรณะก็ได้ลงตีพิมพ์ในโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์


เรื่องสั้น 
Ultra Unholy Hearted Machine
Rune Master Urara
Bad Shield United
คอมมิค 
เทพมรณะ
ซอมบี้พาวเดอร์