วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2552

อุราฮาร่า คิสึเกะ 「浦原喜助」Urahara Kisuke


อาชีพ เจ้าของร้านอุราฮาร่า, 
อดีตยมทูต หัวหน้าหน่วยที่ 12, 
อดีตหัวหน้ากองวิจัย 
วันเกิด 31 ธันวาคม 
ส่วนสูง 183 เซนติเมตร 
น้ำหนัก 69 กิโลกรัม 
ดาบฟันวิญญาณ เบนิฮิเมะ 

พากย์เสียงโดย ชินอิจิโร่ มิกิ

กษณะ/อุปนิสัย 
คิสึเกะ เป็นเจ้าของร้านอุราฮาร่า ผู้มีเอกลักษณ์คือสวมเสื้อจินเบ ใส่หมวกลาย และสวมรองเท้าเกี๊ยะ (ตอนแรกอิจิโกะเรียกอุราฮาร่าว่า "เจ้าหมวกเกี๊ยะ") ภายนอกดูเหมือนเป็นคนบ้าๆบอๆ แต่เมื่อเขาจับดาบฟันวิญญาณแล้วจะเปลี่ยนเป็นคนละคนทันที 

ประวัติ 
ปัจจุบันคิสึเกะเป็นผู้จัดการร้านอุราฮาร่า ชอบสวมเกี๊ยะกับหมวกตลอด จนอิจิโกะเรียกว่า "เจ้าหมวกเกี๊ยะ" มีลูกน้อง 3 คน คือ เท็ตไซ จินตะ และอุรุรุ ซึ่งแต่ละคนมีพลังที่พอจะปราบฮอลโลว์ได้ คิสึเกะเคยเป็นผู้ก่อตั้งและหัวหน้ากองรุ่นแรกของกองวิจัยวิทยาการ (หน่วย 12 ของโซลโซไซตี้) แต่ต่อมาได้ถูกเนรเทศออกจากโซลโซไซตี้ตลอดกาล เนื่องจากคิดค้นโฮเงียคุกับกายหยาบที่ดูดกินพลังของยมทูตขึ้น และต่อมากายหยาบนี้เองที่เป็นสาเหตุให้พลังวิญญาณของลูเคียฟื้นช้า (ที่จริงไม่ฟื้นเลย เพราะเป็นกายหยาบที่ดูดกลืนพลังวิญญาณ) แต่ในคราวนั้นคิสึเกะก็ได้โยรุอิจิที่เป็นเพื่อนสนิทช่วยเหลือ จนได้มาเป็นคนขายของบนโลกมนุษย์ที่มีลูเคียเป็นลูกค้าประจำ ส่วนตัวแล้วนิสัยจะออกแนวกวนๆ ทะลึ่งทะเล้น แต่กลับเก่งกาจอย่างไม่เข้ากับบุคคลิก มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือและฝึกวิชาให้กับอิจิโกะ 

บทบาท 

ภาค โลกมนุษย์ 
คิสึเกะขายของให้ลูเคีย (โซลแคนดี้) แล้วเป็นม๊อดโซล คิสึเกะจึงจะเอาไปทำลาย แต่ลูเคียสงสารจึงเอาไปใส่ตุ๊กตายัดนุ่น แล้วคิสึเกะก็ปรากฏอีกครั้งตอนที่ดอน คันออนจิปรากฏตัว แต่ตอนนี้คิสึเกะไมช่วยอะไรเพราะอุรุรุอยากดูคันออนจิจึงพามาดู แล้วคิสึเกะก็ปรากฏอีกครั้ง ที่สถานที่ที่ฮอลโลว์มารุมอิจิโกะ ซึ่งคราวนี้คิสึเกะอยู่เฉยๆ แต่ให้พวกจินตะสู้กับฮอลโลว์แทน แล้วก็มาอีก ซึ่งมาช่วยถอดร่างอิจิโกะให้เป็นยมทูตไปชิงตัวลูเคียมา และอีกครั้งก็มากางร่มให้อิจิโกะที่ลงไปนอนกับพื้น แล้วพาไปฝึกบททดสอบสุดโฉดเพื่อเรียกพลังยมทูตคืนมา รอบแรก ให้สู้กับอุรุรุที่พลังสูงม๊ากมากแต่ก็ชนะได้ รอบสอง ให้ชิงพลังยมทูตมา ซึ่งอิจิโกะได้พบซันเงสึ ส่วนรอบสาม คิสึเกะลงมือต่อสู้กับอิจิโกะแต่อิจิโกะก็ผ่านได้ แล้วคิสึเกะก็สร้างประตูเซ็นไกมอนให้พวกอิจิโกะเข้าไปแล้วคิสึเกะก็จบบทบาทโลกที่ตรงนั้น และได้ออกมารับพวกอิจิโกะ หลังจากที่ได้กลับมาจากโซลโซไซตี้แล้ว 

ภาคเบาท์ 
อุราฮาระได้สร้างตัวเซนเซอร์ตรวจจับหาเบาท์ขึ้นมา และให้ไปอยู่ในกายหยาบที่สร้างขึ้น (เป็นลูกแก้ววิญญาณ ตอนหลังอยู่ในตุ๊กตาแทน มี 3 ตัว) และได้จัดฉากสร้างการฝึกให้กับพวกอิจิโกะ โดยให้ลูกแก้ววิญญาณ (ตัวเซนเซอร์เบาท์)ทำเป็นตัวร้าย ตอนหลังก็ถูกเฉลย และพวกอิจิโกะก็ได้ต่อสู้กับเบาท์จนไปถึงโซลโซไซตี้ 

ภาค อารันคาร์ 
คิสึเกะและโยรุอิจิได้มาช่วยอิจิโกะที่โดนฮอลโลว์ครอบงำแล้วถูกยามี่เล่นงานจนแทบสะบักสะบอม แต่แล้วอุลคิโอร่าเข้ามาช่วยยามี่ไว้จึงพาหนีไปได้ต่อมาได้ช่วยรองหัวหน้ารันงิคุจากการถูกลูปีโจมตีและได้ต่อสู้กับ วอนเดอร์ไวซ์ มัลเจร่าซึ่งเป็นอารันคาระดับเอสปาด้าตัวใหม่

ดาบฟันวิญญาณ 

เบนิฮิเมะ 
ขั้นต้น (ชิไค) 
ชื่อ : เบนิฮิเมะ (「紅姫」, Benihime, – เจ้าหญิงสีเลือด?) 
คำปลดปล่อย : จงตื่น, จงร่ำร้อง (「起きろ」, okiro, 起きろ?) 
ลักษณะ : เป็นดาบตรง ตรงส่วนที่งอเหมือนไม้เท้าจะเปลื่ยนแบบไป 
ความสามารถ : ยิงพลังสีแดงเหมือนเลือดไปได้ และสามารถสร้างโล่โลหิตหมอกแดงมาป้องกันตัวได้ 

 ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค) 
ยังไม่ปรากฏ 

เกร็ดความรู้ 
คำว่า เบนิ แปลว่าเลือด และ ฮิเมะ แปลว่าเจ้าหญิง จึงแปลว่า"เจ้าหญิงสีเลือด" 

เครดิต 


  

(เพิ่มเติม)ชายหนุ่มวัยกลางคนเจ้าของร้านขายของอุราฮาร่า แรกเริ่มเดิมทีเหมือน
ว่าเขาเป็นเพียงตัวกลางของโซลโซไซตี้ที่มาอาศัยอยู่บนโลกมนุษย์เท่านั้น แต่ภายหลังเราจะได้รับทราบ
ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นถึงอดีตหัวหน้าหน่วยที่ 12 ของโซลโซไซตี้ ที่ถูกเนรเทศออกมา
ตลอดกาลเพราะไปสร้าง โฮเคียคุ ขึ้นมา นอกจากนี้แล้วเขายังมีความลับอีกมากมายแต่
ก็มีบางอย่างที่แน่ชัดก็คือ ฝีมือดาบของเขานั้นขึ้นชื่อมากในโซลโซไซตี้ , 
เขามีความสามารถทางด้านวิทยาการ (แบบโซลโซไซตี้) อยู่ในระดับสูง, 
เขารู้จักกับอิชชินมาก่อน และอาจจะรู้จักกับอิชิดะ ริวเคน

ผู้เป็นพ่อของอุริวก็เป็นได้ เขาเป็นเพื่อนสนิทกับชิโฮอิน โยรุอิจิ 

ดาบฟันวิญญาณ

เบนิฮิเมะ (紅姫 - นางพญาสีเลือด) 
คำเรียกเวลาปลดปล่อยดาบ: จงตื่น (起きろ - โอคิโร) จงร่ำร้อง (啼け - นาเคะ) 
รูปร่างและความสามารถ: ยามปกติจะเป็นดาบซ่อนอยู่ในไม้เท้าของอุราฮาระ
แต่ยามปลดปล่อยขั้นต้นจะกลายเป็นดาบใบตรงด้ามโค้งๆ (นึกไม่ออกก็ลองไปดูดาบเลเซอร์ของ
เคานท์ดูกูในสตาร์วอร์สละกัน) ความสามารถยังไม่ปรากฏแน่ชัด นอกจากใช้โจมตีธรรมดากับใช้สร้างโล่
พลังขึ้นมาจากเลือดชื่อว่า "โล่หมอกโลหิต"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น